วันพุธที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2558

รู้จัก Digital Printing กันหน่อย

"Digital Printing" เพื่อนๆอาจจะเคยได้ยินคำๆนี้กันมาบ้างแล้วนะครับ แต่เพื่อนๆทราบหรือไม่ว่ามันคืออะไร จริงๆแล้วมันอยู่ใกล้ตัวเรานิดเดียวเองนะครับ และอาจจะเป็นชีวิตประจำวันของใครหลายๆคนกันเลยทีเดียว เราไปทำความรู้จักกับคำนี้กันครับ

ดิจิตอลปริ้นติ้ง หรือ การพิมพ์ดิจิตอล ก็คือ การพิมพ์ผ่านคอมพิวเตอร์มายังเครื่องพิมพ์ที่ต่อพ่วงด้วย หรือจะให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือการต่อเครื่องปริ้นต์เข้ากับคอมพิวเดอร์และทำการสั่งพิมพ์เนี่ยแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์รายงาน เอกสารต่างๆ ก็ถือเป็นการพิมพ์ดิจิตอลได้เหมือนกัน

หากเพื่อนๆกำลังหาบริการแนวนี้ต้องมองเรื่องงบประมาณไว้ด้วย เพราะ การพิมพ์ดิจิตอลมีราคาค่อนข้างสูงกว่าการพิมพ์แบบออพเซ็ต เมื่อเทียบในปริมาณมากๆ แต่การพิมพ์ดิจิตอลจะถูกกว่าเมื่อต้องการพิมพ์ในปริมาณไม่มาก เนื่องจากการการพิมพ์แบบออพเซ็ตอาจจะมีเรื่องของขั้นต่ำมาเกี่ยวข้อง ยกตัวอย่างเช่น ฉลากสินค้า หากพ่อค้าแม่ค้าในในระดับธุรกิจเล็ก-กลาง อาจจะต้องการฉลากสินค้าเพียงไม่กี่พันดวง ส่วนนี้อาจจะต้องพึ่งการพิม์แบบดิจิตอลมากกว่า

อย่างไรก็ตาม หวังว่าบทความนี้อาจจะเป็นประโยชน์เล็กๆให้แก่เพื่อนๆนะครับ

วันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2558

รู้จักสติ๊กเกอร์กันสักเล็กน้อย

สติ๊กเกอร์ฉลากสินค้า หรือ ฉลากผลิตภัณฑ์ ได้กลายมาเป็นเครื่องมือสำคัญในธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการประเภทต่างๆ ซึ่งในทางด้านการตลาดแล้ว สติ๊กเกอร์ถือเป็นเครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับผู้ประกอบการ เพราะสติ๊กเกอร์ที่สวยงามจะสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ตัวผลิตภัณฑ์นั้นๆ ได้ด้วย จึงเปรียบเสมือนกับเป็นภาพพจน์ของผลิตภัณฑ์ และยังเป็นการสร้างลักษณะเฉพาะให้กับผลิตภัณฑ์ เพื่อที่จะทำให้แตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในตลาด ส่งผลให้ช่วยดึงดูดลูกค้าให้ลูกค้าสามารถจดจำได้ง่ายเมื่อกลับมาเลือกซื้ออีกครั้งได้ อีกทั้งยังเชื่อมโยงไปถึงภาพพจน์ของบริษัทอีกด้วย

ส่วนประกอบหลักของ สติ๊กเกอร์สามารถจำแนกได้ออกเป็น 4 ส่วนดังนี้ คือ
1.  Surface หรือ ผิวหน้า คือ ส่วนที่อยู่ด้านบนสุดของสติ๊กเกอร์เป็นส่วนที่จะรองรับการพิมพ์ มี 2 ประเภท คือ กระดาษ และฟิล์ม


2. Adhesive หรือ กาว คือ ส่วนที่เป็นตัวทำให้สติ๊กเกอร์ สามารถติด กับชิ้นงานได้แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ
- Removable Adhesive คือ เป็นชนิดกาวที่มีความเหนียวปานกลาง แต่ไม่ทิ้งคราบกาวบนพื้นผิวที่แปะ เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการใช้ชั่วคราว หรือ แปะภาชนะรีไซเคิล
- Permanent Adhesive คือ เป็นชนิดกาวที่มีความเหนียว สามารถยึดเกาะกับพื้นผิวได้ดี โดยเฉพาะพื้นผิวเรียบ เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการแปะถาวร
- Strong Adhesive คือ เป็นชนิดกาวที่สามารถยึดเกาะกับพื้นผิวได้ดีกว่าแบบ Permanent เหมาะสำหรับพื้นผิวที่มีความโค้งงอ ขรุขระ
- Frozen Adhesive คือ กาวที่เหมาะสำหรับใช้กับสติ๊กเกอร์ ที่ต้องอยู่ในความเย็น หรือ ต้องสัมผัสกับความเย็นโดยตรง อย่างเช่น สติ๊กเกอร์ติดตู้ไอศกรีม หรือ ตู้เย็น เป็นต้น


3 Silicon คือ สารที่เคลือบอยู่บน liner หรือ กระดาษรองหลังสติ๊กเกอร์ การลอกสติ๊กเกอร์ยากง่ายนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณของ Silicon ที่เคลือบไว้บนกระดาษรองหลัง 

4.  Liner (Backing) คือ กระดาษรองสติ๊กเกอร์ อยู่ด้านท้ายสุดของ สติ๊กเกอร์ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
 -  Glassine มีลักษณะเป็นกระดาษโปร่งแสง บาง สามารถเข้ากันได้ง่ายกับเครื่องพิมพ์ทุกชนิด
 -  Kraft (pond) มีลักษณะคล้ายกับกระดาษวาดรูป ซึ่งแข็ง หยาบและหนา เหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่ไม่ต้องผ่านเครื่องพิมพ์
นอกจากส่วนประกอบสำคัญต่างๆ ของตัวสติ๊กเกอร์แล้ว การพิมพ์สติ๊กเกอร์ ยังสามารถแบ่งออกเป็น  2 ประเภทใหญ่ๆ เพื่อให้เหมาะกับความต้องการที่ต่างกันคือ


     1. Thermal Transfer Printing คือ การพิมพ์ที่ใช้ความร้อน โดยที่หัวพิมพ์จะส่งความร้อนไปที่หมึกพิมพ์ เพื่อทำให้หมึกพิมพ์ละลายลงไปที่สติ๊กเกอร์ ผลที่ได้จะทำให้เกิดรูปแบบต่างๆ ได้ตามความต้องการขอผู้ใช้ และมีคุณภาพสูง ละเอียด คมชัด คงทน อีกทั้งด้วยตัวสติ๊กเกอร์ยังออกแบบให้สามารถทนได้ ต่อสภาพอากาศในแบบต่างๆ เช่น ในห้องเย็นที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศา หรือ ในความร้อนมากกว่า 100 องศา เป็นต้น จึงทำให้สามารถใช้งานได้ในทุกรูปแบบของความต้องการ

     2. Direct Thermal Printing คือ เทคโนโลยีการพิมพ์ที่ใช้ความร้อนจากหัวพิมพ์ เปลี่ยนสารเคมีที่เคลือบอยู่บนสติ๊กเกอร์ ให้เป็นรูปแบบตามที่ต้องการบนเนื้อสติ๊กเกอร์โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้หมึกพิมพ์ เช่น กระดาษเครื่องโทรสาร และ ใบบันทึกรายการจากเครื่อง ATM เป็นต้น


Cr : http://www.logisticsdigest.com/

วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558

ฉลากสินค้าสำคัญอย่างไร

เมื่อพูดถึง “ฉลากสินค้า” ทุกท่านที่เป็นผู้บริโภคคงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า ไม่รู้จักฉลากสินค้า เพราะในชีวิตประจำวันผู้บริโภคสามารถพบเห็นฉลากสินค้าได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นฉลากยา ฉลากอาหาร ฉลากเครื่องสำอาง ฉลากเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือฉลากสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย แล้วฉลากสินค้ามีความสำคัญกับผู้บริโภคอย่างไร

พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 ได้กำหนดให้ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองไว้ 5 ประการ คือ

1. สิทธิที่จะได้รับข่าวสาร รวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ  2. สิทธิที่จะมีอิสระในการเลือกหาสินค้าหรือบริการ  3. สิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าหรือบริการ 4. สิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา 5. สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาและชดเชยความเสียหาย

โดยพ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 กำหนดว่า “ฉลาก” หมายถึง รูป รอยประดิษฐ์ กระดาษหรือสิ่งอื่นใดที่ทำให้ปรากฏข้อความเกี่ยวกับสินค้าซึ่งแสดงไว้ที่สินค้าหรือภาชนะบรรจุ หรือหีบห่อบรรจุสินค้าหรือสอดแทรก หรือรวมไว้กับสินค้า หรือภาชนะบรรจุ หรือหีบห่อบรรจุสินค้า และหมายความรวมถึงเอกสารหรือคู่มือสำหรับใช้ประกอบสินค้า ป้ายที่ติดตั้งหรือแสดงไว้ที่สินค้าหรือภาชนะบรรจุหรือหีบห่อบรรจุสินค้านั้น

“ฉลากของสินค้า” จะต้องระบุข้อความดังนี้

- ชื่อประเภทหรือชนิดของสินค้าที่แสดงให้เข้าใจได้ว่าสินค้านั้นคืออะไร กรณีที่เป็นสินค้าที่สั่งหรือนำเข้ามาเพื่อขาย จะต้องระบุประเทศที่ผลิตด้วย เช่น โทรทัศน์สี คอมพิวเตอร์ สมุดพิมพ์เขียน น้ำหอมปรับอากาศ ผลิตในประเทศญี่ปุ่น ผลิตในประเทศมาเลเซีย ฯลฯ

- ชื่อผู้ประกอบการหรือเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนในประเทศไทยของผู้ผลิตเพื่อขายในประเทศไทย

- ชื่อผู้ประกอบการหรือเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนในประเทศไทยของผู้สั่งหรือผู้นำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย

-สถานที่ตั้งของผู้ผลิตเพื่อขายหรือของผู้สั่งหรือผู้นำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย

- ต้องแสดงปริมาณ หรือขนาด หรือปริมาตร หรือน้ำหนักของสินค้า

- ต้องแสดงวิธีใช้ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าสินค้านั้นใช้เพื่อสิ่งใด เช่น ใช้ทำความสะอาดพื้นไม้หรือพื้นกระเบื้อง  ภาชนะเคลือบใช้ตั้งบนเตาไฟ ฯลฯ

- ข้อแนะนำในการใช้หรือห้ามใช้ เพื่อความถูกต้องในการใช้ที่ให้ประโยชน์แก่ผู้บริโภค เช่น ห้ามใช้ของมีคมกับการแซะน้ำแข็งในตู้เย็น  ควรเก็บสินค้าไว้ในที่ร่มและไม่เปียกชื้น ฯลฯ

- คำเตือน  (ถ้ามี)

- วัน เดือน ปี ที่ผลิต หรือวัน เดือน ปีที่หมดอายุ หรือวัน เดือน ปี ที่ควรใช้ก่อน (ถ้ามี)

- ราคาต้องระบุหน่วยเป็นบาท และจะระบุเป็นเงินสกุลอื่นด้วยก็ได้ นอกจากนี้สินค้าที่ควบคุมฉลากตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ได้แก่ สินค้าที่ผลิตเพื่อขายโดยโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน (กรณีจะเข้าข่ายเป็นโรงงานก็คือใช้แรงงานตั้งแต่ 7 คนขึ้นไป หรือใช้เครื่องจักรตั้งแต่ 5 แรงม้าขึ้นไป) สินค้าที่สั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขายและคณะกรรมการว่าด้วยฉลากยังมีอำนาจออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก กำหนดให้สินค้าที่อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่สุขภาพร่างกาย หรือจิตใจ เนื่องในการใช้สินค้าหรือโดยสภาพของสินค้านั้น หรือสินค้าทั่วไปใช้เป็นประจำ

การกำหนดฉลากของสินค้านั้นจะเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภค ในการที่จะทราบข้อเท็จจริงในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้านั้น เป็นสินค้าที่ควบคุมฉลากได้ สำหรับการแสดงข้อความในฉลากสินค้าต้องใช้ข้อความที่ตรงต่อความเป็นจริง และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้านั้น ๆ ในกรณีที่สินค้านั้น ๆ มีกฎหมายของหน่วยงานราชการอื่นควบคุมในเรื่องฉลากอยู่แล้ว ก็ให้จัดทำฉลากตามกฎหมายนั้น ๆ เช่น อาหารต้องจัดทำฉลากตามพระราชบัญญัติอาหาร ฯลฯ

เมื่อฉลากสินค้าเป็นแหล่งข้อมูลในการอุปโภค และบริโภคของผู้บริโภค ซึ่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ได้กำหนดสิทธิที่ผู้บริโภคจะต้องได้รับข่าวสาร ดังนั้นไม่ว่าจะก่อนซื้อหรือก่อนใช้สินค้าหรือบริการ หยุดให้ความสำคัญอ่านฉลากสักนิดเพื่อคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค.

Cr : http://www.dailynews.co.th/

แนะนำสติ๊กเกอร์ที่เหมาะกับนำมาทำฉลากสินค้า

สวัสดีครับ

สติ๊กเกอร์ฉลากสินค้านั้นถือเป็นหนึ่งในสื่อที่โปรโมทสินค้าของเรา ยิ่งภาพลักษ์ดูดี ดูสวย คู่กับบรรจุภัณฑ์ดีเข้ากันแล้ว จะยิ่งทำให้ผู้บริโภคสนใจที่จะซื้อสินค้าของเรามากขึ้น

สติ๊กเกอร์ฉลากสินค้า


สำหรับบทความนี้ ผมอยากแนะนำสติ๊กเกอร์ที่เหมาะกับฉลากสินค้า
1. สติ๊กเกอร์เนื้อกระดาษ สติ๊กเกอร์เนื้อกระดาษนี้ ราคาถูกเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นนำไปติดสินค้าสินค้า เนื้อสติ๊กเกอร์นั้นฉีกขาดง่าย และไม่กันน้ำ จึงเหมาะกับการใช้แปะชั่วคราว ใช้แล้วทิ้ง เช่น ฝากล่องขนม เป็นต้น
2. สติ๊กเกอร์เนื้อพลาสติก ราคาจะสูงขึ้นมาหน่อยจากสติ๊กเกอร์เนื้อกระดาษ สติ๊กเกอร์ชนิดนี้ทดน้ำ ทดแดด เนื้อสติ๊กเกอร์เหนี่ยว ฉีกขาดยาก เหมาะกับการใช้นานๆ เช่น ขวดแชมพู เป็นต้น

ทั้งนี้เพื่อนๆลงดูนะครับว่า สินค้าของคุณเหมาะกับสติ๊กเกอร์ประเภทใด